ในวันเสาร์ที่ 7 มีนาคมเราจะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างสองนักสู้ ที่ยังไม่เคยฉะกันมาก่อนอย่าง อิสราเอล อเดซานย่า และ โชเอล โรเมโร่ จาก คิวบา
สองนักสู้เป็นนักสู้ชั้นยอดที่สร้างสถิติไว้มากมาย เชื่อว่าเราจะได้เห็นการสู้ที่ดีจากทั้งสองคนนี้ที่สนาม ที โมบายล์ อารีน่า ลาส เวกัส เนวาด้า
อิสราเอล อเดซานย่า เริ่มต้นอาชีพเป็นนักสู้แบบผสมในปี 2012 ขึ้นชกทั้งหมด 18 ชนะรวด น็อค 14 ครั้ง และยังเคยมีประสบการณ์เป็นนักมวยอาชีพชนะ 5 จาก 6 ไฟต์ ที่แข่งอีกด้วย ซึ่งเป็นการชนะ 5 แมตช์รวด และไฟต์ที่แพ้นั้นก็เป็นเพราะเกิดควาไมม่โปร่งใสในการตัดสินของกรรมการผู้ให้คะแนน
พอเข้าร่วม UFC ในปี 2017 เจ้าตัวสู้มาแล้ว 7 ไฟต์ชนะรวด น็อค 3 เขาพิสูจน์ให้เห็นพลังหมัดที่หนักหน่วง และยังมีเทคนิคคิ๊กบ็อกซิ่งค์เพิ่มเข้ามา และในวัย 30 ปีนี้ เจ้าตัวเป็นแชมป์มิดเดิ้ลเวทของ UFC ในปัจจุบัน
ขณะที่ โชเอล โรเมโร่ จาก คิวบา ขึ้นชกทั้งหมด 187 ชนะ 13 แพ้ 4 สถิติอาจจะไม่โดดเด่นนัก แต่เขาก็ได้รับการยอมรับเพราะมีดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิคในปี 2000 ในกีฬามวยปล้ำ และยังได้เหรียญอื่นๆ ในกีฬาชนิดนี้อีกด้วย
โชเอล โรเมโร่ เริ่มอาชีพศิลปะการต่อสู้แบบผสมในปี 2009 ชนะรวดใน 4 ไฟต์แรก หลังจากนั้นก็มาเข้าร่วม UFC ในปี 2013 สามารถน็อคคู่ต่อสู้ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยดีเท่ไหร่แพ้มาสองไฟต์ติด
นักสู้สองวคนนี้แทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเท่าไหร่ นอกจากอายุของ โรเมโร่ ที่มีมากกว่า อเดซานย่า 13 ปี อายุเป็นปัจจัยที่สำคัญมากใน UFC แต่ โรเมโร ตั้งใจแน่วแน่ว่าไฟต์ที่จะเจอกันในวันพุธมันไม่มีขีดจำกัดเรื่องอายุอย่างแน่นอน
เขากล่าวว่าอายุสำหรับเขานั้นเป็นเพียงตัวเลขและถ้าหากคนๆหนึ่งสามารถดูแลสภาพร่างกายตัวเองดีๆ ก็ยังอยู่ในอาชีพนี้ต่อไปได้ไยาก หรือต่อให้แพ้ในไฟต์นี้เจ้าตัวก็จะไม่รีไทร์จาก UFC ในเร็ว ๆ นี้แน่
ทั้งนี้หาก โรเมโร่ คว้าแชมป์ เขาจะกลายเป้นแชมป์ มิดเดิ้ลเวทของ UFC ที่มีอายุมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา