แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่ม ยูเวนตุส 5-2 ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มของศึกชิงแชมป์สโมสรโลก และคว้าตำแหน่งจ่าฝูงในกลุ่มจี
ชัยชนะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หมายความว่าพวกเขาจะได้เจอกับทีมที่จบอันดับสองในกลุ่มเอช ซึ่งอาจเป็นเรอัล มาดริด ซัลซ์บวร์ก และอัล ฮิลาล ขณะที่ยูเวนตุสจะพบกับทีมผู้ชนะของกลุ่มดังกล่าว
เกมดังกล่าวเป็นเกมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองเกมได้ตั้งแต่ต้นเกม โดยเฌเรมี โดคู ยิงประตูได้ในนาทีที่ 9 จากการจ่ายบอลอันชาญฉลาดของรายาน ไอต์-นูรี
อย่างไรก็ตาม ยูเวนตุส ตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทิน คูปไมเนอร์ส ยิงประตูได้ในนาทีที่ 11 หลังจากเอแดร์สันจ่ายบอลพลาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาขึ้นนำอีกครั้งในอีก 15 นาทีต่อมา เมื่อปิแอร์ คาลูลู ทำเข้าประตูตัวเองขณะพยายามเบี่ยงลูกครอสต่ำของเพื่อนร่วมทีม
ในครึ่งหลัง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยิงให้แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 52 และฟิล โฟเด้น ยิงเพิ่มเป็น 2-0 ในนาทีที่ 69
ซาวินโญ่ ยิงเพิ่มได้อีก 1-0 ในนาทีที่ 75 ก่อนที่ดูซาน วลาโฮวิช จะยิงประตูปลอบใจให้กับยูเวนตุสในนาทีที่ 84
ชัยชนะของแมนฯ ซิตี้ ถือเป็นชัยชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ในรอบแบ่งกลุ่ม และเป็นทีมเดียวในทัวร์นาเมนต์นี้ที่ชนะเกมในกลุ่มได้ครบทุกนัด
ชัยชนะครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสม่ำเสมอของแมนฯ ซิตี้ โดยทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ดูแข็งแกร่งมากขณะที่พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบต่อไปของการแข่งขัน เกมต่อไปของแมนฯ ซิตี้จะเป็นตัวตัดสินคู่ต่อสู้ แต่คาดว่าพวกเขาจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบาก
ยูเวนตุส แม้จะแพ้ แต่พวกเขาก็รักษาตำแหน่งในรอบน็อคเอาท์ไว้ได้ และจะพยายามฟื้นตัวจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้
ทีมจากอิตาลีจะต้องเผชิญหน้ากับทีมแชมป์กลุ่ม H ซึ่งประกอบด้วย เรอัล มาดริด, ซัลซ์บวร์ก และอัล ฮิลาล โดยพวกเขาหวังว่าจะสร้างความปั่นป่วนและผ่านเข้ารอบต่อไปในทัวร์นาเมนต์นี้ได้
ในส่วนอื่นๆ กิจกรรมการซื้อขายนักเตะของอาร์เซนอลเริ่มที่จะเฟื่องฟูขึ้น เนื่องจากสโมสรเตรียมที่จะเซ็นสัญญากับคริสเตียน มอสเกรา กองหลังจากบาเลนเซีย ซึ่งเกิดขึ้นไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่สโมสรตกลงเซ็นสัญญากับคริสเตียน นอร์การ์ด ของเบรนท์ฟอร์ดได้