เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โอลิมปิก มาร์กเซย ได้ทำลายอาถรรพ์ 14 ปี เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จในการเอาชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์เก่า ที่สตาด เวโลดรอม
มาร์กเซยเอาชนะแชมป์ยุโรปได้ด้วยประตูตั้งแต่ต้นเกมของนาเยฟ อาเกิร์ด ซึ่งทำให้โมนาโกขึ้นนำในตารางคะแนนลีกเอิง
การแข่งขันลีกเอิง คลาสสิก ที่กำหนดไว้ในวันอาทิตย์ถูกเลื่อนออกไปเป็นเย็นวันจันทร์ เนื่องจากพายุพัดถล่มทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ในวันอาทิตย์ พายุได้พัดถล่มเมืองโฟเซียน
นี่คือชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของเจ้าบ้านที่ไม่ได้ทำประตูใส่เปแอสเชที่เวโลดรอมในลีกเอิงมาตั้งแต่ปี 2017 และไม่เคยเอาชนะพวกเขาในบ้านในลีกเอิงมาตั้งแต่ปี 2011 (3-0) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ QSI เพิ่งเข้ามาคุมทีม
มาร์กเซยได้ประตูเดียวของเกมนี้เมื่อลูคัส เชอวาลิเยร์ ผู้รักษาประตูของเปแอสเช ลงมาโหม่งบอลให้เมสัน กรีนวูด แต่บอลไม่เข้า ทำให้อาเกิร์ดโหม่งเข้าประตูที่ไม่มีใครเฝ้าประตู ยิงประตูที่สองของเขาในฤดูกาลนี้
หลังจากขึ้นนำในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เปแอสเชพยายามหาประตูตีเสมอ แต่รุลลีจับตาดูวิตินญ่าและฟาเบียน รุยซ์อย่างใกล้ชิด เพื่อสกัดกั้นโอกาสทองของทั้งคู่
เจ้าบ้านมีโอกาสยิงประตูที่สอง แต่ลูกยิงโค้งของอามีน กูอิรีในนาทีที่ 25 ชนคาน
เอเมอร์สันคิดว่าเขายิงประตูที่สองได้ แต่ปาวาร์อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
มาร์กเซยกับปาอิเซารู้วิธีเร่งความเร็วและสร้างความอันตราย ขณะที่เปแอสเชต้องการครองเกม
ทีมเยือนไม่สามารถควบคุมเกมได้ แต่การขาดเดมเบเล่, บาร์โคลา, ดูเอ และเนเวส ไม่ได้ช่วยให้พวกเขาทำประตูได้
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงพึ่งพาผู้เล่นชั้นนำคนอื่นๆ ในทีม โดยควารัตสเคเลียได้ยิงประตูอันตรายก่อนจบครึ่งแรก
เปแอสเชยกระดับเกมในครึ่งหลังและมีโอกาสตีเสมอหลายครั้ง แต่รุลลีก็อยู่ในฟอร์มที่ดีด้วยการเซฟลูกยิงอันยอดเยี่ยมของอัชราฟ ฮาคิมี
ลูกโหม่งของรามอสก็หลุดกรอบเช่นกัน และผู้รักษาประตูชาวอาร์เจนตินาก็ปัดลูกยิงของวิตินญ่าออกไปได้อีกครั้ง ช่วยให้เจ้าบ้านยังอยู่ในเกมนี้
หลังจากโรแบร์โต เด แซร์บีถูกไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 91 จากการแสดงความโกรธ มาร์กเซยก็พลาดโอกาสอีกสองครั้งแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำให้ทีมเสียประตู ทำให้พวกเขายังคงรักษาชัยชนะที่สำคัญเอาไว้ได้