ความพ่ายแพ้ของเซลติกในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยสก็อตติชคัพกับอเบอร์ดีนเมื่อไม่นานนี้ถือเป็นจุดตกต่ำที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับผู้จัดการทีมเบรนแดน ร็อดเจอร์สและกัปตันทีมคัลลัม แม็คเกรเกอร์ ซึ่งไม่เคยประสบกับความผิดหวังเช่นนี้ที่แฮมป์เดน
ความพ่ายแพ้ในการยิงจุดโทษซึ่งแม็คเกรเกอร์ยิงไม่เข้า ทำให้เซลติกต้องยุติสถิติไร้พ่ายในแมตช์สำคัญ แม็คเกรเกอร์กล่าวว่าความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิตฟุตบอลของเขา ทำให้ทีมต้องดิ้นรนกับความรู้สึกล้มเหลวที่หาได้ยาก
ความเจ็บปวดจากการพ่ายแพ้ไม่น่าจะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากแฟนบอลคู่แข่งมากนัก เนื่องจากเซลติกครองความยิ่งใหญ่ในฟุตบอลสก็อตแลนด์
แม้จะพ่ายแพ้ แต่ทั้งร็อดเจอร์สและแม็คเกรเกอร์ก็รับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีสติ โดยพูดตรงไปตรงมาไม่กี่นาทีหลังจบการแข่งขัน แม็คเกรเกอร์ซึ่งแสดงอารมณ์อย่างเห็นได้ชัดได้รับการปลอบโยนจากร็อดเจอร์ส ซึ่งยอมรับว่าทีมมีผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน
กัปตันทีม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คนของเซลติกที่เล่นได้อย่างโดดเด่นในเกมที่ไม่ค่อยดีนัก ยอมรับว่าความเจ็บปวดจากการพ่ายแพ้ครั้งนี้จะคงอยู่ต่อไป
ร็อดเจอร์สไม่ลังเลที่จะวิจารณ์ฟอร์มการเล่นของทีม โดยระบุว่าทีมขาดคุณภาพและจังหวะการเล่นที่เชื่องช้า ผู้เล่นหลายคนไม่สามารถรักษามาตรฐานปกติเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่เซลติกตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกกับบาเยิร์น มิวนิคเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นดูเหมือนจะทำให้โมเมนตัมของทีมลดลง จากการพ่ายแพ้ต่อฮิบส์ เซนต์จอห์นสโตน เรนเจอร์ส และตอนนี้คืออเบอร์ดีน ทำให้ทีมมีจุดอ่อนที่ดูเหมือนจะหยุดไม่อยู่
ในครึ่งแรกของฤดูกาล เซลติกครองพรีเมียร์ลีกและคว้าแชมป์พรีเมียร์สปอร์ตส์คัพได้สำเร็จ โดยสร้างโอกาสให้ทีมทำพลาดได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ต่อแฮมป์เดนถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้
การเสมอกับเซนต์เมียร์เรนเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้นบ่งบอกถึงรอยร้าวบนเกราะป้องกันของพวกเขา และการแพ้ในรอบชิงชนะเลิศถ้วยนี้ยิ่งทำให้ความกังวลเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นในปัจจุบันของทีมเพิ่มมากขึ้น
ขณะนี้การแข่งขันสก็อตติชคัพอยู่นอกเหนือการควบคุมแล้ว คณะกรรมการบริหารของเซลติกจึงต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักที่จะต้องจัดหาเงินทุนที่จำเป็นให้กับร็อดเจอร์สเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม ช่วงเวลาในการย้ายทีมถือเป็นช่วงที่สำคัญ เนื่องจากทีมจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับรอบเพลย์ออฟแชมเปี้ยนส์ลีกที่สำคัญในช่วงกลางเดือนสิงหาคม
แม้ว่าสถานะทีมวางของพวกเขาจะช่วยสร้างความมั่นใจได้บ้าง แต่การพลาดอีกครั้งก็อาจกลายเป็นหายนะได้ การคัดเลือกผู้เล่นต้องแม่นยำ โดยต้องเสริมกำลังในแนวรับ กองกลาง และแนวรุก เพื่อฟื้นคืนความได้เปรียบให้กับเซลติก
สำหรับร็อดเจอร์สและแฟนบอลที่มีความทะเยอทะยานของเขา การหยุดนิ่งไม่ใช่ทางเลือก สโมสรต้องพัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของการแข่งขันทั้งในประเทศและระดับยุโรป การเซ็นสัญญากับผู้เล่นคนสำคัญและการวางแผนเชิงกลยุทธ์มีความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าเซลติกจะกลับมามีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งและหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่ต้องจ่ายแพงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า